Monday, November 18, 2013

กรรมแต่ปางก่อน

กรรมแต่ปางก่อน

          จิตของมนุษย์มีการเกิดดับและเลื่อนไหลอยู่ตลอดเวลาในขณะเดียวกันก็สร้างความคิดปรุงแต่ง จนมีศักยภาพที่กลายมาเป็นบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลต่อการรับรู้ในอารมณ์ความรู้สึก รัก เกลียด และปรุงแต่งอารมณ์ต่างๆ จนในที่สุดเกิดความประทับใจทั้งในทางบวกและทางลบขึ้นภายในจิตใจต่อวัตถุอันเป็นสิ่งรับรู้ทั้งหลาย แม้ว่าศักยภาพในภาวะดังกล่าวจะหลบซ่อนอยู่ภายใน เป็นกระแสจิตที่เกิดดับ คิดปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา ในรูปของวิญญาณความรู้สึก ก่อให้เกิดผลลัพธ์ติดตามต่อไปยังอนาคตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นพฤติกรรมที่ " เราเป็น เราอยู่ " ในภพปัจจุบันถูกกำหนดไว้โดยกรรมที่กระทำไว้ในอดีตเสมอ ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถนำเอาหลักของกรรมเก่าหรือจากผลของกรรมแต่ปางก่อน มาใช้อธิบายการเกิด อารมณ์ความรู้สึก รัก เกลียด ชอบ ไม่ชอบ ถูกใจ ต้องตา ต่อพฤติกรรมบุคลิกภาพ กิริยาท่าทางของบุคคลหรือสิ่งต่างๆ ที่เราพบปะแม้จะเป็นครั้งแรกได้เป็นอย่างดี


          อาศัยกฎแห่งกรรมในลักษณะนี้ ทำให้เราเข้าใจผลกรรมในปัจจุบันที่ย้อนไปหาอดีต และสามารถนำไปทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้จากหลักการคิดแบบอนุมาน ดังข้อสรุปที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า " ชีวิตปัจจุบันย่อมเกิดมาจากผลในอดีตเสมอ " การด่วนสรุปโดยการคาดเดาเอาเองว่า เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ โชค เคราะห์ แรงบันดาล หรือความบังเอิญตามความเชื่อดั้งเดิมนั้น จัดว่าเป็นความเชื่อที่ผิดๆ ไม่เป็นไปตามแนวคำสอนของพระพุทธองค์เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม อันเป็นผลจากการคิดปรุงแต่งในอารมณ์ทั้งหลายในปัจจุบันและต่อไปยังอนาคต ทั้งๆ ที่ความคิดปรุงแต่งเหล่านี้ เราสามารถเลือกที่จะคิด เลือกที่จะทำได้ภายใต้เจตจำนงเสรีเสมอ วิสกี้ที่เรามองเห็นบรรจุในขวดชวนให้น่าดื่มสำหรับนักดื่มที่คุ้นต่อรสชาติอันโอชะเนื่องจากประสบการณ์ของ " กรรมเก่า " แค่มองเห็นก็มีความคิดปรุงแต่งอยากจะดื่มกินให้เปี่ยมกระเพาะโดยเร็ว แต่หากเราหาทางเลือกใหม่โดยไม่ให้อารมณ์ความรู้สึกตกอยู่ใต้อิทธิพลของกรรมเก่าที่เคยกินเคยดื่ม เราก็สามารถตัดความอยากนั้นลงได้ด้วยเจตจำนงเสรีที่เราสามารถเลือกประกอบกุศลกรรมแทนอกุศลกรรมอย่างที่เราเคยทำมาในปางก่อน นั้นแสดงว่า " กรรมเก่า " สามารถถูกทำให้จางหายลงไปได้ด้วยอิทธิพลของการปรุงแต่งทางด้านกายภาพและจิตภาพที่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้จากการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนา ด้วยการเฝ้าติดตามดูอารมณ์ที่เกิดดับอยู่ทุกขณะ แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขอกุศลกรรมในปางก่อนให้กลายเป็นกุศลกรรมในปัจจุบันได้เสมอ หากเราเข้าใจถ่องแท้ในเรื่องของกฎแห่งกรรมตามแนวทางพุทธศาสนา




By แก่นพุทธธรรม

No comments:

Post a Comment