ขี้ผึ้งกันหนังมือแตก
ในรัฐซ่งมีชายคนหนึ่งมีความรู้ในการผสมยาขี้ผึ้งกันหนังมือแตก เนื่องจากมียาชนิดนี้จึงทำให้ครอบครัวของเขาหากินด้วยการรับจ้างฟอกไหมและด้ายมาเป็นเวลาหลายชั่วคน มีคนต่างถิ่นคนหนึ่งเมื่อรู้เรื่องนี้ก็มาหา บอกว่าเขายินดีจะให้เงินร้อยเหรียญเพื่อซื้อตำรายานี้ ชายผู้มีอาชีพฟอกไหมและด้ายเรียกคนในบ้านมาประชุมปรึกษาหารือกัน เขาเล่าว่า " พวกเราทำงานฟอกไหมและด้ายมาหลายชั่วคนแล้ว แต่ได้เงินไม่เท่าไรเวลานี้ถ้าเรายอมขายตำรายาให้ชายผู้นั้นก็จะได้เงินถึงร้อยเหรียญ ว่ายังไง ข้าว่าขายให้เขาเถอะ "
เมื่อชายต่างถิ่นได้ตำรายานั้นไปแล้ว เขาก็ไปถวายกษัตริย์ของรัฐหวูกราบทูลให้พระองค์ผสมยาชนิดนี้ ต่อมาไม่นานรัฐเยียะได้ยกกองทัพมารุกรานรัฐหวู กษัตริย์รัฐหวูได้ตรัสสั่งให้ชายผู้นั้นนำทหารไปรับศึก ระยะนั้นกำลังอยู่ในฤดูหนาวอากาศหนาวจัด กองทหารทั้งสองฝ่ายทำการสู้รบกันทางน้ำ ชายผู้นั้นให้ทหารของรัฐหวูแต่ละคนทายาขี้ผึ้งกันผิวแตก ทหารแต่ละคนจึงคึกคักห้าวหาญทำการรบพุ่งไล่ฆ่าฟันทหารรัฐเยียะแตกพ่ายไปกษัตริย์แห่งรัฐหวูทรงพอพระทัยมาก ได้เอาที่ดินผืนหนึ่งประทานให้เขาเป็นบำเหน็จความดีความชอบ
ขี้ผึ้งกันผิวหนังแตกชนิดเดียวกัน แต่ฝ่ายหนึ่งได้รับที่ดินเป็นบำเหน็จรางวัล อีกฝ่ายเพียงแต่ใช้ประกอบอาชีพฟอกไหมและด้ายเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากใช้ในที่ต่างกันนั่นเอง !
บันทึกใน " จวงจื่อ "
มุมมองปรัชญา
เรื่องข้างต้นนี้เป็นการสนทนาโต้ตอบระหว่างฮุ่ยซือกับจวงจื่อ ฮุ่ยซือเป็นตัวแทนของนักนิยมโต้แย้งในสมัยนั้น เมื่อความคิดเห็นของเขาไม่มีใครนำไปใช้เขาก็ไม่พอใจกล่าวว่า มีน้ำเต้าขนาดใหญ่ลูกหนึ่งสามารถบรรจุข้าวได้ถึงห้าถังแต่ว่ามันใหญ่โตเกินไป " เห็นว่าไม่เป็นประโยชน์จึงทุบมันเสีย " จวงจื่อฟังแล้วก็หัวเราะและจึงเล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟัง
ของสิ่งหนึ่งจะมีประโยชน์หรือไม่มีนั้น หาได้กำหนดโดยขนาดที่ใหญ่หรือเล็กของมันไม่ ที่สำคัญยังอยู่ที่ว่าจะใช้มันในสภาพชนิดไหน คำพังเพยมีว่า " ศอกมีที่สั้น นิ้วมีที่ยาว " ถ้หากใช้ไม่ถูกที่แล้วศอกก็ย่อมจะสั้นได้ ถ้าใช้ในที่อันเหมาะสมแล้วนิ้วก็อาจจะยาวได้ ฉะนั้นจึงควรจะทำให้ถึงขั้นที่ว่า " ใช้ของให้สุดขีดที่จะใช้ได้ ใช้คนให้สุดขีดความสามารถ "
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment