Friday, October 04, 2013

ทะเลทุกข์เวิ้งว้าง หันหลังกลับคือฝั่ง




ใต้ฟ้าแจ่มใสเดือนกระจ่าง เหินหาวได้ ไร้ขอบเขต
แต่แมลงเท่ากลับบินเข้าหาเปลวเทียน
ลำธารใสหญ้าเขียวขจี ดืมกินได้ตามใจชอบ
แต่นกเค้าแมวกลับชอบรสหนูเน่า
เออหนอ
คนที่ไม่เป็นแมงเม่าและนกเค้าแมวในโลก
จะมีสักกี่คน ?


นิทัศน์อุทาหรณ์

แมงเม่าโฉบไฟ

          ฟ้าสีครามสดใสสุดสายตา ฝูงห่านป่าบินผ่านมา ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น ไปด้วยอิสระเสรี


          ดวงจันทร์สุกสกาวอยู่บนท้องฟ้า นภาราตรีส่งเสียงร้องด้วยความสำราญในท่ามกลางกระแสลมเย็นเหมือนสายฝน เบิกบานสราญใจเป็นอย่างยิ่ง

          เป็นเพราะ... แผ่นฟ้าผืนดินนี้กว้างใหญ่ไพศาล มิได้พันธนาการสรรพสิ่งทั้งหลายไว้

          ทว่าแมลงเม่าเหตุไฉนจึงคิดสั้น มุ่งแต่จะบินเข้าไปในเปลวไฟต้องสูญเสียชีวิตของตนเอง ?

          เหมือนดังเช่นในป่าเขาลำเนาไพร น้ำใสหญ้าเขียวล้วนแต่มีรสโอชา แต่เหตุไฉนนกเค้าแมวกลับชอบกินซากหนูที่เน่าเปื่อยแล้ว ?

          คนโบราณมักชอบกล่าวว่า " ฟ้าทำเวร หลี่กเลี่ยงได้ คนสร้างกรรมไม่มีรอด "

          เมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เราสามารถจะหลบหนีให้พ้นได้แต่คนเราถ้าไม่รักถนอมตัวเอง เช่นนี้แล้วไม่ว่าใครก็สามารถจะช่วยไว้ได้

           " ภาษิตรากผัก " มีความเห็นว่า แมลงเม่าบินเข้ากองไฟคือการปลิดชีวิตตัวเอง ส่วนนกเค้าแมวกินหนูเน่า ก็คือการประจานตัวเอง !

          เราลองมามองดูมนุษย์เรา ถ้าหากไม่สามารถจะทอดตาไปให้ไกลวุ่นวายอยู่แต่เรื่องเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ นั่นก็เท่ากับหาความลำบากใส่ตัว เพราะการวุ่นวายอยู่กับการหาเงินหาประโยชน์ จะทำให้สูญเสียความเกษมสำราญแห่งชีวิตไปทั้งสิ้น

           แม้กระนั้นก็ตาม ในโลกนี้จะมีใครบ้างที่สามารถละวางชื่อเสียงลาภยศเฉพาะหน้า หันมาแสวงหาความเกษมสำราญจากธรรมชาติอย่างเต็มที่ ?





 By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )

No comments:

Post a Comment