เริ่มจากตะเกียบงาช้าง
กษัตริย์โจ้วได้ทรงรับสั่งให้หาคนมาทำตะเกียบงาช้างสำหรับพระองค์ จี้จื่อเห็นเช่นนั้นเกิดรู้สึกวิตกมาก เขาคิดว่า เมื่อคนเรามีตะเกียบงาช้างแล้ว ถ้วยชามกระเบื้องทั้งปวงก็จะไม่เหมาะที่จะใส่ของกิน จักต้องมีภาชนะจานชามที่ทำด้วยหยกอันสวยงามมาเป็นของคู่กัน เมื่อมีชามหยกและตะเกียบงาช้างแล้ว ของที่อยู่ในถ้วยชามจะเป็นข้าวฟ่างพืชผักธรรมดาย่อมไม่ได้ อาหารทะเลที่หายาก เมื่อได้รับประทานหางช้าง ลูกเสือดาวก็จะสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบๆ อยู่กระต๊อบไม่ได้ ตรงกันข้ามจะต้องสวมเสื้อผ้าราคาแพงอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ความใคร่ในการเสพสุขก็ย่อมจะพองตัวขยายออกไปอย่างไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ซึ่งจะต้องเอาหยดเหงื่อหยาดเลือดของประชาราษฏร์มาสนองตัณหาของตน บ้านเมืองก็จักใกล้ความวิบัติเข้าไปทุกที
เนื่องด้วยกษัตริย์โจ้วทรงเสพสุขสำราญรมย์อย่างหาขอบเขตมิได้ ในที่สุดบ้านเมืองก็ล่มจม ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวกันว่า ผู้ทรงปัญญานั้นควรพิจารณาเห็นเรื่องเล็กๆ ที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ จากเหตุเบื้องต้นคาดคิดถึงผลในบั้นปลาย
บันทึกใน " หานเฟยจื่อ "