Friday, June 21, 2013

ช่วงเวลาของวิญญาณ

ช่วงเวลาของวิญญาณ

          ตามที่เราทราบมาแล้วว่า วิญญาณเป็นสังขตธรรม เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นอยู่ชั่วครู่ชั่วขณะ ( กาลิกะ ) มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกชั่วครู่ทุกยาม เป็นกระแสติดต่อกันไป พุทธศาสนาถือว่า ไม่เพียงแต่วิญญาณเท่านั้นที่เป็นอนิจจัง แม้สรรพสิ่งวัตถุธาตุทั้งหลายก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน มีการผันแปรเปลี่ยนแปลงภายใต้กฏไตรลักษณ์เช่นเดียวกับการเวลา ปรัชญาพุทธก็ไม่ถือและไม่นับว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เพราะว่าเป็นสิ่งที่แท้มันเป็นเพียงกรอบความคิดในการกำหนดการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ เท่านั้น ปรัชญาพุทธถือว่า กาละหรือเวลา เป็นเพียงกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดติดต่อกัน ดังนั้นความนึกคิดที่มีการเปลี่ยนแปลงติดต่อกัน ดังนั้นความนึกคิดที่มีการแบ่งเวลาออกเป็น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต นั้นจึงเป็นเพียงสมมติสัจจะที่มิได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริง เพราะเมื่อเราพิจารณาโดยภาวธรรมแล้ว ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ส่วนอนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มีเพียงช่วงแห่งปัจจุบันกาลเท่านั้นที่พุทธศาสนาถือว่าเป็นจริง การที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าหากพุทธศาสนายอมรับในความมีอยู่จริงของกาลในอดีตและเวลาในอนาคต ก็ย่อมเท่ากับว่า ปรัชญาพุทธยอมรับว่าสิ่งทั้งหลายมีอยู่จริงอย่างถาวรหรือชั่วนิรันดร์จากอดีต ปัจจุบัน และติดต่อกันไปอย่างไม่สิ้นสุดในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับกฏไตรลักษณ์

           ตามคำสอนของพระพุทธองค์ กล่าวว่า มีแต่ปัจจุบันกาลเท่านั้นที่มีอยู่จริงในความหมายของคำว่า ภาวะ หรือ ภพ ดังนั้นจึงถือว่ามีแต่ปัจจุบันกาลเท่านั้นที่เป็นจริง อดีตและอนาคตกาลไม่ใช่ความจริง ทั้งนี้ คำว่า ปัจจุบันกาล ในทางพุทธศาสนาหมายถึงช่วงของปัจจุบันหรือ " ขณะปัจจุบัน " เช่นช่วงแห่งการเกิดดับของวิญญาณดังปรากฏในคัมภีร์วิสุทธมรรคที่อธิบายไว้ว่า

           " เปรียบดังวงล้อเกวียนกำลังแล่นไป มีเพียงจุดเดียวของวงล้อเท่านั้นที่หมุน ( รับน้ำหนัก ) และเมื่อเกวียนหยุด ก็ย่อมมีเพียงจุดเดียว ( ที่รับน้ำหนัก ) ของวงล้อเท่านั้นที่หยุด ชีวิตแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน ย่อมดำรงอยู่เพียงช่วงสั้นๆ ของการเกิดดับของวิญญาณ เมื่อวิญญาณดับ ชีวิตก็ดับ "




By แก่นพุทธธรรม

No comments:

Post a Comment