Monday, July 15, 2013

อารมณ์แห่งความวิตกยินดีชังหรือชอบ ล้วนเพราะเห็นคล้อยไปตามรูปลักษณ์





วิสัยมนุษย์ได้ยินเสียงนกร้องก็ชอบ
ได้ยินเสียงกบร้องก็ชัง
เห็นดอกไม้ก็อยากจะปลูก
พบหญ้าก็อยากจะดาย
ซึ่งล้วนแต่ใช้อารมณ์ตามรูปลักษณ์ทั้งสิ้น
ถ้าหากพิจาราณาตามสภาวะธรรมชาติ
อันใดเล่าที่มิใช่ร้องรำทำเพลงไปตามสัญชาตญาณ ?
มิใช่งอกงามตามวิถีแห่งการเจริญเติบโตของชีวิต ?

นิทัศน์อุทาหรณ์

ทัศนะเจ้าของโรงเตี้ยม

          บางคนชอบสุนัขต่างประเทศ แต่บางคนไม่ชอบ เพราะมันมีราคาแพง เลี้ยงยาก คนบางคนชอบดอกไม้แดง แต่บางคนไม่ชอบสีสันอันฉูดฉาดของดอกไม้แดงแม้สักนิด

          เราอาจจะเกิดความรู้สึกแปลกใจว่า เป็นคนเหมือนๆ กัน เหตุไฉนอุปนิสัยใจคอของแต่ละคน จึงแตกต่างกันมากมายเช่นนี้หนอ ?

          เมื่อใคร่ครวญอย่างละเอียด ที่แท้เรามักอาศัยภายนอกของสรรพสิ่งมาตัดสินความดีและความชั่ว เมื่อได้ฟังเสียงนกขมิ้นร้องก็ว่าเพราะ ได้ยินเสียงกบร้องก็ว่าหนวกหู เห็นดอกไม้สวยๆ ก็คิดอยากปลูกไว้ดู แต่กลับเหยียบย่ำหญ้าเขียวที่อยู่ข้างๆ ดอกไม้นั้นจนแหลกลาญ มีแต่นกขมิ้นกับดอกไม้สวยเท่านั้นหรือที่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ? ส่วนกบและหญ้า ไม่ควรจะมีสิทธิ์ที่จะดำรงอยู่ต่อไปหรืออย่างไร


          เจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง มีภรรยา ๒ คน คนหนึ่งอ้อนแอ้นอรชรสวยดุจนางฟ้า อีกคนหนึ่งจมูกแบนปากกว้างขี้เหร่อย่างเหลือแสนแต่เจ้าของโรงเตี๊ยมกลับไม่สนใจไยดีกับภรรยาคนสวย รักภรรยาคนขี้เหร่มากกว่า

          แขกที่มาพักโรงเตี๊ยมรู้สึกแปลกใจ จึงถามเขาว่า " เหตุไฉนท่านจึงไม่ค่อยรักภรรยาโฉมงามคนนั้น แต่กลับมารักคนที่น่าเกลียดน่าชังเหลือเกิน ? "

          เจ้าของโรงเตี๊ยมตอบว่า " นั่นเป็นเพราะว่านางคนสวยนั้นเย่อหยิ่งเกินไป ข้าพเจ้าจึงดูไม่ออกว่านางสวยที่ตรงไหน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นถึงแม้หน้าตาจะไม่น่าดูนัก แต่หล่อนก็รู้จักถ่อมตัวเพราะความขี้เหร่ของตนเอง ฉะนั้นข้าพเจ้ายิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่านางสวยขึ้นทุกวัน "

          เห็นได้ชัดว่า ความสวยงามหรือความขี้เหร่ภายนอก เป็นเพียงทัศนะส่วนตัวของบุคคลเท่านั้น ท่านไม่ชอบก็อาจจะมีคนอื่นชอบ อะไรที่มันกลมก็คือกลม อะไรที่มันมีสีเขียวก็มีสีเขียว มันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเพราะความรักหรือความชังของท่านเป็นอันขาด

           จวงจื้อนักคิดผู้ยิ่งใหญ่สมัยโบราณเคยเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง

          มีชายคนหนึ่งมีกลิ่นตัวแรงมาตั้งแต่กำเนิด พวกเพื่อนๆ ไม่ชอบเขาพวกญาติ ๆ ก็ไม่ชอบเขา ต่อมาคนอื่นทั้งหลายก็พากันไม่ชอบเขาไปด้วย เขาจึงต้องหลบไปที่ริมทะเล ซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านเดิมของเขาแต่ลำพัง

          ที่ริมทะเลแห่งนั้น มีชายคนหนึ่งซึ่งตั้งภูมิลำเนาอยู่ละแวกนั้นมาแต่เดิม กลับชอบดมกลิ่นตัวเขาเป็นอันมาก ดังนั้น คนทั้งสองก็สามารถจะคบหากันเป็นเพื่อนสนิทมีชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างผาสุกเรื่อยมา

           เพราะเหตุนี้ สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ล้วนแต่ดำรงอยู่โดยสอดคล้องกับธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่เรียกว่าดี ไม่มีอะไรที่เรียกว่าเลว ถ้าหากเราสามารถที่จะใช้จิตใจที่ปราศจากอคติปฏิบัติต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างเสมอภาค ก็เชื่อว่า โลกของเราคงจะกว้างขวางขึ้น คงจะมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นเป็นแน่นอน !





 By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )

       

No comments:

Post a Comment