ได้ดีหรือตกต่ำก็ไม่พรั่นพรึง
เดินชมดอกไม้ที่ลานบ้านเหมือนเคย
จะอยู่หรือจะไปก็ไม่วิตก
ลอยลิ่วปลิวตามก้อนเมฆบนท้องฟ้า
นิทัศน์อุทาหรณ์
เทวดาในจอกเหล้าคนคนนี้ เราเคยได้ยินชื่อเขามาบ่อยครั้ง ตอนนี้อยากจะมาพูดถึงเขาให้ฟังอีก เขาคือหลี่ไป๋ ซึ่งถือกันว่าคงจะเป็นเทพเจ้าแห่งกวีจุติลงมาเกิดในเมืองมนุษย์
อำนาจวาสนาและทรัพย์ศฤงคารซึ่งเป็นที่หมายปองแก่คนทั่วไปว่าสำหรับหลี่ไป๋แล้ว เป็นเพียงก้อนเมฆที่ลอยผ่านไปบนฟ้า มีก็ได้ ไม่มีก็ได้
แต่ไหนแต่ไรมา หลี่ไป๋ไม่เคยยินดีปรีดาไปกับเกียรติยศชื่อเสียงใดๆ ทั้งสิ้น และก็ไม่เคยตื่นตระหนกต่อการดูหมิ่นถิ่นแคลน ถือมันเป็นดอกไม้ที่ลานบ้าน บานแล้วก็โรย โรยแล้วก็บานอีก เป็นธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง เขาเป็นเพียงคนว่างที่พอใจจะชมดอกไม้เท่านั้น เป็นขุนนางสมหวังในราชสำนักอย่างดี กลับไปหาความวิเวกในป่าเขาก็ดี เป็นเพียงก้อนเมฆบนท้องฟ้าสีครามปล่อยให้มันลอยละล่องไปมาตามความพอใจ ไม่เคยเห็นเป็นอารมณ์เลย
เขาถือการดื่มเหล้าเป็นความสุข ไม่มีแก่ใจที่จะสว่างหาชื่อเสียงเกียรติยศ แต่เพราะการเร่งเร้าหลายครั้งหลายหนของเพื่อนฝูง เขาจึงเข้าเมืองหลวงไปสอบเป็นขุนนาง พระเจ้าถังเสียนจงฮ่องเต้พอพระทัยในความรู้ความสามารถของเขา ทรงเรียกเขาเข้าวังบ่อยๆ ทว่าแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยจะได้พบเขา มิฉะนั้นก็พบเขาเมาหัวราน้ำอยู่ ขันทีต้องเอาน้ำราดหัวเขาให้รู้สึกตัว จึงเอาเขาเข้าวังได้
มหากวีตู้ฝู่เคยเขียนบทกวีถึงหลี่ไป๋ไว้ว่า
หลี่ไป๋ร่ายกวีร้อยบทหมดเหล้าหนึ่งกา
ซุกร่างในร้านสุราฉางอันพลันหลับใหล
ฮ่องเต้เที่ยวตามตระเวนหาทุกแห่งไป
ยอดกวียืดกายว่าข้าคือเทวดาในจอกเหล้า !
ฮ่องเต้ซึ่งอยู่สูงยังเบื้องบน ว่าสำหรับหลี่ไป๋ ซึ่งไม่สนใจไยดีต่อชื่อเสียงลาภยศนั้น น่ากลัวว่ายังจะสู้เหล้าดีสักกาหนึ่งไม่ได้ !
ต่อมาภายหลัง มีคนริษยาเขา ใส่ร้ายป้ายสีหลี่ไป๋ต่อหน้าพระถังเสียนจงฮ่องเต้ พระเจ้าถังเสียนจงจึงเบื่อหน่ายเขาเป็นลำดับ
แต่หลี่ไป๋ก็ไม่ใส่ใจทูลว่า " ถ้าไม่พอพระทัย ข้าพระองค์ก็ขอกลับบ้านดีกว่า "
พระเจ้าถังเสียนจงฮ่องเต้ ยอมปล่อยเขากลับไป ทรงถามว่า " เขาต้องการอะไรบ้าง ? "
หลี่ไป๋ตอบว่า " ขอป้ายทองป้ายเดียว ให้ข้าพระองค์สามารถจะดื่มเหล้าดีได้ทุกแห่งหน ไม่ต้องจ่ายเงินเท่านั้นก็พอแล้ว "
หลี่ไป๋เป็นคนเช่นนี้ เขาเป็นกวีที่ใจถึงที่สุด รื่นรมย์ที่สุดของประเทศจีน ชอบหรือชังก็ไม่เกรง ดีหรือร้ายก็ไม่กลัว อยู่หรือไปไม่สำคัญ การปลงตกของเขา ทำให้เขาไม่สนใจไยดีในชื่อเสียงลาภยศ ความไม่สนใจไยดี ทำให้เขาจิตใจไร้กังวล ท่องไปทุกแห่งหนอย่างเสรี
เป็นความจริงทีเดียว ถ้าหากคนเราหมกมุ่นอยู่แต่ในสิ่งซึ่งตนปรารถนาเมื่อไม่ได้ก็จะเจ็บปวด แม้เมื่อได้มาแล้ว ก็ไม่เป็นสุข กลัวว่าอาจจะต้องสูญเสียมันไปสักวันหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เป็นคนปล่อยตัวไปตามสบายจะไม่ดีกว่าหรือ ?
By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
No comments:
Post a Comment