Tuesday, December 17, 2013

พักบ้างยามไม่ว่าง


พักบ้างยามไม่ว่าง

          ฌานาจาร่ย์ต้าอานช่วยเหลือฌานาจารย์เหว่ยซานหลงอิ้ว ถางป่าสร้างอาราม ปฏิบัติธรรมแบบฌานตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น จนกระทั่งฌานาจารย์เหว่ยซานนั่งสมาธิดับขันธ์ในฌานสมาบัติไป พระเณรในวัดทั้งหมดจึงขอร้องให้ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาสแทน เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต ท่านเดินทางกลับบ้านเกิดที่ฮกเกี้ยน พำนักในอารามอี๋ซานย๋วน นอกจากนั่งสมาธิแล้ว ท่านไม่พูดไม่จาไม่ทำอะไรทั้งสิ้น จึงได้อีกฉายาหนึ่งว่า ฌานาจารย์หลั่นอาน ( ฌานาจารย์เกียจคร้าน )

          มาวันหนึ่ง ลูกศิษย์ท่านรูปหนึ่งทนไม่ได้ ถามท่านว่า " ทั้งวันไม่พูดไม่จา เฉกเช่นก้อนหินและต้นไม้ หรือว่านี่คือจิตแบบฌาน ? " ฌานาจารย์จึงเรียกประชุมพระเณรทั้งหมด แล้วพูดว่า " ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ทุกคนนั่งสมาธิไม่พูดไม่จาแบบอาตมา ไม่เกินสามวันทุกคนจะรู้จักตัวตนของตัวเอง "

          พระเณรทุกรูปจึงนั่งสามาธิไม่พูดไม่จาอย่างฌานาจารย์ วันแรกผ่านไปยังไม่มีอะไร วันที่สอง ต่างบ่นปวดหลังปวดเอวตามๆ กัน จึงร้องขออาจารย์ว่า พวกตนเต็มใจทำงานมากกว่านั่งสมาธิ ฌานาจารย์ต้าอานจึงกล่าวแก่พระเณรทุกรูปว่า " หลวงจีนเฒ่านั่งสมาธิหนึ่งวัน ยังเหนือกว่ายุ่งงานพันปี "


          สมัยยังหนุ่มแน่น ฌานาจารย์ต้าอานต้องทำงานหนักทุกวันแม้ว่าการแบกฟืนหาบน้ำคือ ฌาน แต่ฌานมิใช่การแบกฟืนหาบน้ำ ก็เช่นเดียวกับการทำงานคือ ฌาน การนั่งสมาธิคือ ฌาน การเคลื่อนไหวคือฌาน การนิ่งสงบคือ ฌาน การไม่พูดไม่จาก็เช่นกัน คือ ฌาน ทำไมเราต้องไปแยกพูดออกจากกัน หรือมองว่างไม่ว่าง ยุ่งไม่ยุ่ง เป็นคนละเรื่อง ? " เพราะฉะนั้น ฌานาจารย์ต้าอานจึงพูดว่า " หลวงจีนเฒ่านั่งสมาธิหนึ่งวัน ยังเหนือกว่ายุ่งงานพันปี "

          ในสังคมอุตสาหกรรมที่สับสนวุ่นวายอย่างทุกวันนี้ งานที่รัดตัวมาก มักทำให้เรากลายเป็นคนไร้ความคิด จึงควรพักบ้างยามไม่ว่าง ให้สมองได้ผ่อนคลาย ดังสำนวนที่ว่า " พักผ่อนเพื่อก้าวเดินให้ได้ยิ่งไกลยิ่งขึ้น " ขณะพักผ่อนนั้น บางครั้งสมองอาจแวบปรากฏ " พิมพ์เขียว " ในอนาคตขึ้นมาก็ได้ นี่มิใช่ของแถมดอก ?





เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment