Thursday, April 18, 2013

ชีวิตดังหนึ่งฟองอากาศ ไยต้องชิงชื่อเสียงลาภยศ




แก่งแย่งแข่งขันกันในแสงกระทบหินเหล็กไฟ
จะมีเวลาให้สักเท่าใด ?
ต่อสู้ช่วงชิงกันบนยอดเขาหอยทาก
โลกนี้ใหญ่นักหรือ ?

นิทัศน์อุทาหรณ์
รบกันบนยอดเขาหอยทาก

          ในสมัยโบราณนานมาแล้ว เมื่อคนเราเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้ากว้างก็มักจะว่า " ฟ้าเหมือนฝาชีครอบ แผ่นดินมีรูปสี่เหลี่ยมเหมือนกระดานหมากรุก "

           ต่อมาคนเราก็เห็นว่า " ฟ้าดินเหมือนไข่มุก ฟ้าหุ้มดินอยู่เหมือนเปลือกไข่หุ้มไข่แดง "

           เวลาผ่านไป คนเราใช้สายตาพินิจพิจารณา ใช้สติปัญญาวินิจฉัยจึงได้รู้ว่า ที่แท้บนฟ้าซึ่งใหญ่โตมโหฬารนั้น มิใช่แต่จะมีเพียงดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เท่านั้น ยังมีดวงดาวอยู่อีกมากมาย ดวงดาวแต่ละดวง ล้วนแต่เป็นดวงใหญ่มากบนท้องฟ้าทั้งสิ้น

            เฉพาะดวงดาวที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ก็มีถึง ๙ ดวง ลูกโลกที่เรามีชีวิตอยู่เป็นหนึ่งในนั้น และระบบสุริยจักรวาลเป็นแต่เพียงระบบหนึ่งในระบบดาวอันนับไม่ถ้วนอยู่บนท้องฟ้า ระบบดาวอื่นๆ ที่ใหญ่กว่าระบบสุริยจักรวาลมีมากมายสุดคณานับ


           ในตอนนี้เอง เมื่อคนเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็พากันอุทานด้วยความตื่นเต้นว่า " ใช่ เหนือฟ้ายังมีฟ้าอยู่จริงๆ ! "

          คนเราค้นพบความลับในจักรวาลมากเข้า ก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเล็กลงไปทุกที ชีวิตคนเมื่อเทียบกับวันเวลาของจักรวาลแล้ว ก็ไม่ผิดอะไรกับประกายไฟแวบหนึ่งเมื่อหินเหล็กไฟสองก้อนกระทบกัน

          คนตัวเล็กๆ ทำอะไรกันบ้างในชีวิตอันแสนสั้น ?

          เรามีนิทานอยู่เรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง

          ในสมัยโบราณกาลก่อนโน้น ในแดนเหลียงมีนักปราชญ์อยู่คนหนึ่งชื่อว่าไต้จิ้นเหยิน คราวหนึ่ง เขาพูดกับเว่ยอ๋องว่า " บนยอดเขาหอยทากข้างซ้ายมีแคว้นชู่ ส่วนยอดเขาหอยทากข้างขวาชือว่าแคว้นหมาง แคว้นทั้งสองมักจะรบเพื่อแย่งชิงดินแดนของกันและกันจนตายไปหลายหมื่นคน แคว้นที่รบชนะก็มัดกจะไล่ฆ่าฟันแคว้นที่รบแพ้นานถึง ๑๕ วันจึงหยุด "

          เว่ยอ๋องไม่เชื่อ ไต้จิ้นเหยินจึงถามเว่ยอ๋องอีกว่า " ท่านอ๋องเห็นว่าฟ้าดินมี่ทิศ มีขอบเขตหรือไม่ ? "

          เว่ยอ๋องตอบว่า " ไม่มี "

          ไต้เหยินจึงว่า " เมื่อเป็นเช่นนั้น ความคิดจิตใจของเราจะสามารถท่องไปในจักรวาลอันไร้ขอบเขตได้หรือไม่ ? ตรงกันข้ามรอยเท้าของเราสามารถจะไปได้ก็เพียงแค่พื้นที่ที่ห้อมล้อมไปด้วย ๔ มหาสมุทรเท่านั้น เพราะฉะนั้นโลกที่เราอยู่เมื่อเทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลแล้ว ก็เล็กแสนเล็กใช่หรือไม่ ? "

          " ถูกทีเดียว " เว่ยอ๋องพยักหน้ารับ

          " ภายใน ๔ มหาสมุทรมีแคว้นเว่ย เดิมอยู่เหอตง ต่อมาถูกแคว้นฉินบีบจนต้องมาอยู่แดนเหลียงนี้ ท่านอ๋องบัดนี้ท่านมาอยู่ในแดนเหลียงจักรวาลนั้นใหญ่โตนัก แต่ท่านอ๋องก็เล็กนิดเดียว มีอะไรแตกต่างกันกับแคว้นจิ๋วๆ สองแคว้นที่อยู่บนยอดเขาหอยทากนั้นเล่า ? "

          " ใช่ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย " นี่เป็๋นความรู้สึกของเว่ยอ๋องในครั้งกระโน้น

          เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒,๐๐๐ กว่าปีก่อน แต่มนุษยชาติก็ยังแย่งชิงกันอยู่บนโลกเล็กๆ ลูกนี้ ดูเหมือนจะไม่เคยหยุดยั้งลงเลย เมื่อใดหนอ จะได้เล็งเห็นถึงสัจธรรมข้อนี้บ้าง ?




By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
       

No comments:

Post a Comment