Saturday, July 26, 2014

ตอบโต้อะไรไม่ได้


ตอบโต้อะไรไม่ได้

       ฌานาจารย์ ผานกุย เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีคนเลื่อมใสศรัทธามากมาย ทุกครั้งที่ท่านเทศนาธรรม จะมีสาวกมานั่งฟังธรรมล้นโบสถ์ ทำให้อัญดิตถีย์จำนวนมากริษยาหาทางรังควานท่าน

       อัญดิตถีย์คนหนึ่งมาถึงก็ถามว่า " อาจารย์ผานกุย ท่านเทศนาธรรมที่นี่ ย่อมมีสาวกมากมายที่ศรัทธาเลื่อมใสอยู่แล้ว แต่ข้าไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ข้าจะดูว่าท่านจะทำให้ข้าเชื่อท่านได้อย่างไร ? "

       ฌานาจารย์ยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า " เชิญท่านนั่งทางซ้ายมือของอาตมา อาตมาจะสนทนาด้วย "

       อัญดิตถีย์ลุกขึ้นทันที เบียดกลุ่มคนออกไปนั่งทางซ้ายมือของฌานจารย์ผานกุย ฌานาจารย์เห็นเช่นนั้น รีบกล่าวว่า " ท่านนั่งห่างขนาดนั้น เชิญนั่งทางขวามือดีกว่า จะได้สนทนากันสะดวกหน่อย "

        อัญดิตถีย์ผู้นั้นก็ลุกขึ้นเบียดกลุ่มคนไปนั่งทางขวามือของฌานาจารย์ผานกุย ฌานาจารย์มองแล้วมองอีก จึงกล่าวว่า " อ้อ ! ยังไม่ค่อยสะดวก เชิญนั่งข้างหน้า จะเหมาะกว่า "

       อัญดิตถีย์ผู้นั้นไม่แน่ใจว่าฌานาจารย์จะเล่นลวดลายใด จึงย้ายไปนั่งด้านหน้าของฌานาจารย์ผานกุย รอดูว่าท่านจะสนทนาเรื่องใดกันแน่ ? "

Thursday, July 24, 2014

ความสำคัญของสีหน้าอารมณ์


ความสำคัญของสีหน้าอารมณ์

       มนุษย์ คือสัตว์ที่มีการแสดงออกทางอารมณ์ มนุษย์ มีสุขมีทุกข์ ดีใจเสียใจ เพราะมีการแสดงออกทางอารมณ์ คนอื่นจึงรู้ว่าในใจคุณกำลังคิดอะไรอยู่ บางครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้แสดงอารมณ์ดีใจเสียใจ ก็อาจดูได้จากกิริยาวาจา ซึ่งเป็นสื่อแสดงออกถึงความคิดคำนึงที่อยู่ในใจได้เช่นกัน

        คนบางคนไม่มีกิริยา ไม่มีคำพูด และไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ คุณว่าเขาเป็นคนตายหรือ ? แต่เขามีลมหายใจ จะว่าเขายังมีชีวิตหรือ ? แต่เขาไม่มีอารมณ์ตอบสนอง ดังที่ว่า " เจรจาไม่เอ่ยปาก เทวดาก็จนปัญญา " ต่อคนทีไม่แสดงอารมณ์ ไม่ส่งเสียง ไม่มีกิริยาตอบโต้ มีคนเปรียบเทียบว่าเป็น " ซากศพเดินได้ "  " คนเป็นที่ตายแล้ว " ชีวิตของเขาช่างแห้งแล้งอับเฉา ไม่มีชีวิตชีวาสักนิด ไม่เพียงตนเองเสียดาย แม้แต่สรรพสิ่งในโลกก็เสียดายแทนคนเหล่านี้

        ตัวตลกในละครสัตว์ พยายามแสดงกิริยาท่าทางเพื่อให้คนดูตลกขบขันสนุกสนานครื้นเครง การที่คุณไม่แสดงอารมณ์ ไม่แสดงกิริยาวาจา คุณนี่แย่กว่าตัวตลกเสียอีก แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็ยังรู้จักทำหน้าทะเล้น แสดงท่าทางน่ารักน่าชัง เพื่อให้ผู้ใหญ่เบิกบานใจ หรือคุณจะแย่กว่าเด็กน้อยเสียอีก คุณวิตกมากเกินไป ทำสีหน้าปั้นปึ่ง เหมือนคนอื่นติดค้างหนี้สินคุณ มีคำประชดประโยคหนึ่งที่ว่า " หรือจะให้คนอื่นเอาใบหน้าอุ่นๆ ไปแนบก้นเย็นชืดของคุณ " แบบนี้ไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือ ?

       ปัจจุบันเป็นโลกของเสียง การเจรจาต้องสิ่งเสียงดัง โลกปัจจุบันเป็นโลกของสีสัน ใบหน้าต้องมีรอยยิ้ม กรยิ้มแย้มคือสีสัน บุคสมัยนี้คือโลกของการเคลื่อนไหว คุณต้องมีการแสดงออกเพื่อแสดงว่าคุณยังมีชีวิตอยู่

Saturday, July 19, 2014

ต้นไม้ใหญ่กับห่านขาว


ต้นไม้ใหญ่กับห่านขาว

        ครั้งหนึ่งจวงจื่อเดินทางผ่านเขตเขา เห็นที่ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา มีใบดกลำต้นโตขนาดหลายคนโอบต้นหนึ่ง ที่ใต้ต้นไม้มีคนที่มีอาชีพตัดไม้หลายคนพร้อมกับเครื่องมือ แต่ไม่มีใครลงมือโค่นต้นไม้ต้นนี้ จวงจื่อรู้สึกแปลกใจจึงถามพวกเขา คนตัดไม้ตอบว่า " ต้นไม้นี้เนื้อไม่ดี ไม่สามารถเอาไปใช้ทำอะไรได้ "

         " อ้อ ! จวงจื่ออุทานแล้วหันมาบอกกับศิษย์ของตนว่า " เนื่องจากมันไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้ มันจึงเจริญเติบโตถึงขนาดนี้และมีอายุได้นานขนาดนี้ คนเราก็ควรจะเป็นเช่นต้นไม้นี้จึงจะดี "

        เมื่อเดินทางออกจากเขตเขาก็เป็นเวลาพลบค่ำ จวงจื่อจึงเข้าไปยังหมู่บ้าน และพักแรมในบ้านเพื่อนที่ชอบพอกัน เพื่อนผู้นั้นเห็นจวงจื่อเดินทางมาถึงที่ตนอยู่ก็ดีใจมาก รีบสั่งลูกชายให้ไหปจัดเหล้าและจับห่านมาฆ่าเลี้ยงจวงจื่อ

        ลูกชายของเขาหยิบมีดขึ้นแล้วถามว่า " พ่อจะให้ฆ่าห่านตัวที่ร้องได้หรือตัวที่ร้องไม่เป็น ? "

        ชายผู้นั้นตอบว่า " ห่านที่ร้องไม่เป็นจะมีประโยชน์อะไรควรฆ่าเสีย "

        ศิษย์ของจวงจื่อที่นั่งอยู่ในที่นั้นจึงถามจวงจื่อว่า " ต้นไม้ใหญ่บนภูเขาที่มีอายุอยู่ได้นานก็เพราะไม่สามารถใช้ทำอะไรได้ แต่ขณะนี้เจ้าของบ้านเห็นว่าห่านสีขาวไม่สามารถเกิดประโยชน์กลับให้ฆ่าเสีย ทั้งนี้อาจารย์จะอธิบายอย่างไร ? "

        จวงจื่อหัวเราะกล่าวว่า " เราจะต้องทำตนอยู่ระหว่างกลาง คือ ระหว่างความสามรถและไม่สามารถ เพราะระหว่างกลางเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่แน่ว่าอยู่ข้างใด ไม่มีใครสามารถเอาผิดกับเราได้

บันทึกใน " จวงจื่อ "

ไม่มีแขนเสื้อก็สะบัดไม่ได้


ไม่มีแขนเสื้อก็สะบัดไม่ได้

        คนที่ขาดพละกำลังในการทำงาน ทั้งทุนรอนทรัพยากร หรืออะไรก็ตามที่สำคัญ ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จหรือดีได้



By ปรัชญา " ซามูไร "

จ่ายค่าตอบแทนด้วยการปฏิบัติ


จ่ายค่าตอบแทนด้วยการปฏิบัติ

       ต้นเจี้ยนหยวนศก สฺวีหมิงก่อกบฎ เที่ยวปล้นฆ่าทั่วทุกหัวระแหง พวกกบฎผ่านไปที่ใด ที่นั่นเหลือแต่ซากปรักหักพัง

        ฌานาจารย์ซิ่งคงเห็นสภาพเช่นนี้ ก็ถอนใจด้วยความเศร้า พูดว่า " อาตมาจะนิ่งดูดาย ไม่ช่วยได้ละหรือ ? " ท่านจึงตัดสินใจเดินทางไปพบหัวหน้าโจรโดยลำพัง เมื่อท่านเดินเข้าไปในค่ายโจร หัวหน้าโจรเห็นลักษณะท่าทางเคร่งขรึมสูงสง่า ก็คิดว่าท่านมีอุบายซ่อนเร้นเป็นแน่ จึงตวาดถามเสียงดังว่า " ใคร  จะไปที่ใด ? "

        ฌานาจารย์ตอบว่า " ผู้ออกบวช มารังโจรของพวกเอ็ง ! "

        หัวหน้าโจรบันดาลโทสะ ตวาดสั่งลูกน้องว่า " ลากตัวออกไปตัดศรีษะ ! "

        ฌานาจารย์ซิ่งคงไม่มีทีท่าประหวั่นพรั่นพรึงแม้แต่น้อย ท่านโต้ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า " จะเอาศรีษะ ก็ตัดไป ไยต้องมีโทสะ ! แต่อาตมาเดินทางมาไกลมาก ยังไม่ได้ฉันข้าว ถึงอย่างไรก็ไม่ควรปล่อยให้อาตมาเป็นผีตายอยากมิใช่หรือ ? "

         หัวหน้าโจรจึงสั่งลูกน้องนำสุราอาหารมาถวาย ท่านก็ทำตัวตามสบาย หลังสวดมนต์แล้ว ก็เขียนบทสักการะซึ่งความหมายเปี่ยมด้วยการุณยธรรม เมื่ออ่านบทสักการะ ท่านก็จับตะเกียบฉันข้าว พอฉันอิ่มแล้ว ก็เอื้อนกวีบทหนึ่งว่า

Friday, July 11, 2014

การให้คือการได้รับ


การให้คือการได้รับ

        " ให้ได้ " " ให้ได้ " ถือ " การให้คือการได้รับ " ทั้งนี้เนื่องด้วยเหตุปัจจัยและผล ถ้าเรารู้ได้ถ่องแท้ ก็ไม่อาจเข้าใจถึงความพิสดารของ " การให้คือการได้รับ "

       " การให้ " ดูๆ ไปเหมือนการให้ผู้อื่น แต่ความจริงคือการให้ตนเองให้ คำพูดดีๆ สักคำ คุณจึงจะได้รับคำชมตอบกลับจากผู้อื่น เมื่อยิ้มให้ผู้อื่น คุณก็จะได้รับการ "ยิ้มตอบ " จากเขา ความสัมพันธ์ระหว่าง " ให้ " กับ " ได้ " จึงเหมือน " เหตุ " และ " ผล " เหตุและผลมีความสัมพันธ์กัน เช่นเดียวกับการให้และได้รับที่ส่งผลซึ่งกันและกัน คนทีสามารถ " ให้ " จะต้องเป็นคนที่รวยน้ำใจ ถ้าภายในจิตใจเขาไม่มีนิสัยที่รู้สำนึกในบุญคุณ ในการผูกบุญสัมพันธ์แล้วละก็เขาจะยอมให้คนอื่นได้อย่างไร จะยอมให้คนอื่นได้รับอย่างไร เพราะจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความยินดี เขาจึงมอบความยินดีให้คุณ ภายในจิตใจของเขาซุกซ่อนความเมตตากรุณาที่สุดประมาณไว้เขาจึงสามารถมอบความเมตตากรุณาให้แก่คุณได้ ตนเองมีรทรัพย์จึงสละทรัพย์ได้ ตนเองมีคุณธรรมจึงสละคุณธรรมได้ คนบางคนภายในจิตใจมีแต่โลภ โกรธ หลง อกุศลมูล สิ่งที่เขาให้แก่ผู้อื่นย่อมมีแต่อกุศมูล ดังนั้น เราจึงตักเตือนผู้คนว่า อย่าได้เอาความทุกข์ความเศร้าไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เพราะว่าถ้าคุณให้อะไรแก่ผู้อื่น คุณก็จะได้รับอย่างนั้นตอบแทน นี่เป็นกฎของเหตุและผล

        การให้ ในความหมายทางพระพุทธศาสนาคือการให้ทาน การให้ทานเสมือนต้นโพธิ์ที่ปลูกต้นหนึ่งได้สิบ ปลูกสิบได้ร้อย ปลูกร้อยได้พัน ปลูกพันได้หมื่น ดังนั้นอยู่เย็นเป็นสุข มีชื่อเสียงเป็นที่ยกย่อง สุขภาพแข็งแรง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดก่อนอื่นต่องถามว่า ท่านได้หว่านเมล็ดพันธุ์ในต้นฤดูฝนแล้วหรือยัง ถ้ายัง แล้วท่านจะได้ชื่นชมผลในฤดูเก็บเกี่ยวได้อย่างไร

Thursday, July 10, 2014

ฟู่ทูนประหารลูก


ฟู่ทูนประหารลูก

        สำนักม่อเป็นสำนักความคิดที่สำคัญมากสำนักหนึ่งในสมัยชุนชิว ในกลุ่มของชาวสำนักม่อมีระเบียบที่เคร่งครัดมาก

         ขณะนั้นฟู่ทูนผู้นำของสำนักม่ออาศัยอยู่ที่รัฐฉินลูกชายของเขาได้กระทำความผิดฐานฆ่าคนตายและถูกทหารจับตัวได้ เมื่อกษัตรย์ฮุ่ยแห่งรัฐฉินทรงทราบเรื่องโดยละเอียดแล้ว จึงตรัสสั่งให้ฟู่ทูนเข้าเฝ้าตรัสว่า

         " เวลานี้ท่านมีอายุมากแล้ว ทั้งยังมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ข้าพเจ้าไม่อาจที่จะให้ประหารบุตรของท่านได้และสั่งให้ผู้คุมปล่อยตัวไปแล้ว ครั้งนี้ขอให้ท่านรับฟังความเห็นของข้าพเจ้าสักครัง้เถิด "

        ฟู่ทูนกราบทูลว่า " กฎหมายของสำนักม่อกำหนดไว้ว่า ' ผู้ใดฆ่า คนผู้นั้นต้องถูกลงโทษให้ตายตาม  ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ผู้นั้นต้องลงอาญา ' ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้มีการทำลายชีวิตของคนตามใจชอบ นี่เป็นหลักสำคัญในการปกครองรัฐ ทำความร่มเย็นให้แก่ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ การที่พระองค์ทรงเห็นใจที่ข้าพระองค์มีอายุมากและจะขาดบุตรสืบสกุลนั้น ข้าพระองค์เข้าใจถึงความกรุณา แต่ข้าพระองค์ฟู่ทูนนั้นมีฐานะเป็นหัวหน้าของสำนักม่อไม่อาจที่จะละเมิดกฎหมายของสำนักม่อได้ "

         ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ ฟู่ทูนไม่เห็นชอบตามพระราชดำริของกษัตรย์ฮุ่ยและให้ประหารชีวิตลูกชายของตนอย่างสาสมกับความผิด

บันทึกใน " หลี่สื้อชุนชิว "

Friday, July 04, 2014

ห่างไกล ก็ถูกลืม


ห่างไกล ก็ถูกลืม

         เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เฉพาะที่เกิดกับคนญี่ปุ่น แต่สำหรับคนทุกเชื้อชาติก็ว่าได้ในเรื่องความสัมพันธ์ของคน ที่หลายคนคงรู้ดีว่าคนที่สนิทสนมกันในช่วงเวลาหนึ่ง พอต้องมีสาเหตุที่ทำให้จากกันหรือไม่ได้พบหน้ากันก็มักจะมีโอกาศลืมเลือนกันไป หรือคนที่ตายจากก็จะค่อยๆ ถูกลืมไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน

         แต่เดี๋ยวนี้การติดต่อสื่อสารของโลกนั้นสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้นเพียงปลายนิ้วมือก็สื่อสารกันได้ฉับไว อาจจะพอแก้ปัญหา " ห่างไกล ก็ถูกลืม " ไปได้บ้าง

        ในด้านการค้านั้นเขายิ่งรู้ซึ้งในเรื่องนี้ บริษัทห้างร้าน เจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ เขาจึงต้องทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อต้องการให้ลูกค้านั้นจดจำสินค้าและบริการของเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีโฆษณาสินค้าบางอย่างที่ผู้เกี่ยวข้องในการโฆษณาสินค้าต่างๆ และควรจะมีจรรยาบรรณกำกับไว้ด้วย

        เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมีการเสวนาเรื่อง " ถึงเวลาควบคุมโฆษณาขนมเด็กหรือยัง " โดย ร.ศ.ดร.ปาริชาต  สถาปิตานนท์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า